แม้ว่า Social Media จะถูกนำมาใช้ในการสื่อสารกับลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น แต่จากสถิติของบริษัทวิจัย Nielson พบว่ายิ่งมีการใช้ Social Media มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคนใช้ email มากเท่านั้น 
เพราะกิจกรรมอันดับต้นๆของผู้ใช้อินเตอร์เน็ท นอกจากค้นหาข้อมูลแล้ว email ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสารผ่านออนไลน์ นั่นหมายความว่า touching point ที่จะทำให้พบสื่อสารกับลูกค้าก็ย่อมมีมากขึ้น และทุกครั้งที่คุณส่ง email ถึงลูกค้าของคุณ 3 สิ่งต่อไปนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารผ่าน email ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- 1. ทำให้จดหมายส่วนตัว(Personalization) : จดหมายที่ขึ้นต้นด้วย “เรียน คุณ… ” กับ “เรียน ลูกค้าทุกท่าน” นั้นให้ความรู้สึกที่ต่างกันหรือจดหมายที่ขึ้นต้นหรือลงท้ายถึงผู้รับ ทำให้ผู้รับรู้สึกว่าบริษัทให้ความสำคัญกับเขามากกว่า ไม่เพียงแต่คำขึ้นต้น คุณยังสามารถปรับแต่งเนื้อหาในจดหมายให้ผู้รับรู้สึกถึงความเอาใจใส่และความเป็นส่วนตัวได้อีกด้วย
- 2. ให้ผู้รับทำอะไรต่อไปอย่างชัดเจน ตรงจุด(Exact Call-to-action) : สิ่งที่นักทำการตลาดหรือ CRM ผ่าน email มักพลาดก็คือต้องการให้ลูกค้าทำอะไร สิ่งที่ผมมักพบบ่อยๆคือ เนื้อหาสาธยายว่าเว็บไซต์ดีอย่างไร หรือสินค้านี้ดีอย่างไร พออ่านถึงบรรทัดสุดท้าย ก็เป็นอันจบ และคิดในใจว่า อืมจบละ แล้วเปลี่ยนไปอ่าน email อื่น เนื่อหา email ที่มีประสิทธิภาพต้องบอกผู้รับว่าต้องการให้เขาทำอะไร เช่น หากคุณต้องนำเสนอสินค้าใหม่ ก็ทำให้ลูกค้าคลิ๊กlink ใน email ให้ไปที่หน้าสินค้าใหม่ หรือหากคุณต้องการให้ลูกค้ากรอกแบบฟอร์มก็ใส่แบบฟอร์มหรือlink ไปที่หน้าแบบฟอร์มแทนการลิ๊งก์ไปที่หน้าแรกของเว็บไซต์
- 3. email ต้องแสดงเอกลักษณ์ของ brand(Corporate Identity&Branding) : หากภาพลักษณ์บนโลกออนไลน์กับโลกจริงเป็นคนละแบบ สิ่งที่ตามมาคือ การสร้างความสับสนให้ผู้บริโภค ไม่เพียงแต่ Logo จะแสดงความเป็น Brand ออกมาแต่ยังรวมถึงสไตล์การนำเสนอ เนื้อหาและคำที่เลือกใช้ใน email ควรต้องให้เข้ากันกับเอกลักษณ์ของ Brand ที่กำหนดไว้ หากลูกค้ารับรู้ Brand ของคุณว่าเป็นผู้นำในเรื่อง นวัตกรรมด้านเครื่องเสียง ทำไม email จะนำเสนอสิ่งที่บ่งบอก ความเป็นนวัตกรรมด้านเครื่องเสียง ออกมาไม่ได้ล่ะ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะเริ่ม EMail Marketing Campaign ใด ก็ให้แน่ใจไว้ก่อนว่า รายชื่อที่คุณจะส่ง email ไปให้ได้รับการยินยอมจากผู้รับเรียบร้อยแล้ว มิฉะนั้น จะทำให้สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น กลายเป็นสิ่งไร้ความหมายไปในทันที เพราะคุณกำลังล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้รับ และยังทำร้าย brand ของคุณด้วย
