ทำการตลาดด้วย Social Media แบบเบื้องต้น

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

 

เมื่อ 2-3 วันก่อนได้รับคำถามผ่านทาง Facebook จากกูรูด้าน CRM ท่านหนึ่งถามผมถึงเรื่องการใช้ Social Media ในการทำตลาด

ซึ่งผมเองก็ได้อ่านหนังสือและติดตามงานเขียนของอาจารย์ท่านนี้เสมอ การถามครั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกประหม่าอยู่เหมือนกันเหมือนตัวเองเป็นนักศึกษากำลังทำข้อสอบยังไงยังงั้น แม้ว่าจะเคยอยู่สถาบันที่อาจารย์เคยสอนอยู่ แต่ไม่เคยลงคอร์สของอาจารย์เลยได้แต่ ทำให้ผมต้องทำการบ้านหนัีกและอาศัยประสบการณ์ที่มีมาตอบกลับไป และหลังจากได้ตอบคำถามกลับไปก็รู้้สึกว่า น่าจะได้แบ่งปันข้อมูลที่ตอบกลับไปให้อาจารย์นำมาลงใน Marketingoops เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านที่สนใจsocial-media-basic

” ขอบคุณครับ ที่ขอความเห็นจากผม เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ จากที่อาจารย์ถามว่า How to use Social Media eg. Facebook, Twitter, Hi5 etc to enhance your marketing program? 

ก่อนอื่นต้องเข้าใจธรรมชาติของ Social Media ก่อนคืออะไร

Socia Media นั้นถือเป็นสื่อสาธารณะที่ใครๆก็สามารถเข้ามาร่วมแบ่งปัน ให้ข้อมูล ไม่ได้จำกัดแค่นักข่าวหรือกลุ่ม Journalist อีกต่อไป หรือเรียกเป็น Consumer Generated Media/CONTENT(CGM)และปัจจุบัน Social Media ปรับเปลี่ยนตัวเองจากเดิมที่มีแค่ webboard , forum หรือ Blog กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทุกคนที่เข้ามาใช้ Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook, hi5, twitter,linkin delicious, Flickre และอีกมากมาย โดย Social Media แต่ละตัวมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน ผม List มาให้ดังนี้ครับ

 

1 ใช้เพื่อการสื่อสาร ส่งข่าว shareข่าว ข้อมูล (ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม)Communication(ทุกเว็บใส่ dot com ลงไปนะครับเพื่อเข้าไปดู)

Blogs: Blogger, LiveJournal, Open Diary, TypePad, WordPress, Vox, ExpressionEngine, Xanga  Twitter, Plurk, Tumblr, Jaiku, fmylife

Micro-blogging / Presence applications:

Social networking: Bebo, BigTent, Facebook, LinkedIn, MySpace, Orkut, Skyrock, Hi5, Ning, Elgg, Drupal

Social network aggregation: NutshellMail, FriendFeed

Events: Upcoming, Eventful, Meetup.com

2. ใช้เพื่อให้เกิดความร่วมมือร่วมกัน หรือร่วมกันสร้างนั่นเแหล่ะครับ (Collaboration)

Wikis: Wikipedia, PBwiki, wetpaint

Social bookmarking (or social tagging): Delicious, StumbleUpon, Google Reader, CiteULike

Social news: Digg, Mixx, Reddit, NowPublic

Opinion sites: epinions, Yelp

3. ใช้ Share หรือ Upload Multimedia

Photo sharing: Flickr, Zooomr, Photobucket, SmugMug, Picasa

Video sharing: YouTube, Viddler, Vimeo, sevenload

Livecasting: Ustream.tv, Justin.tv, Stickam, Skype

Audio and Music Sharing: imeem, The Hype Machine, Last.fm, ccMixter

4 ใช้ขอความเห็นหรือหยั่งความคิด (Reviews and Opinions)

Product Reviews: epinions.com, MouthShut.com

Business Reviews: yelp.com

Community Q&A: Yahoo! Answers, WikiAnswers, Askville, Google Answers

Entertainment
Media & Entertainment Platforms:
Cisco Eos

Virtual worlds: Second Life, The Sims Online, Forterra

Game sharing: Miniclip, Kongregate

Other : Pantip.com , mthai.com

5 เพื่อรวบรวมข้อมูลน่าสนใจร่วมกัน (Information aggregators): Netvibes, Twine (website)

จากที่ผมยกตัวอย่าง Social Media เอาไว้ข้างต้นแต่ละแบบก็จะมีหน้าที่แตกต่างกันไป ผมจะขอพูด 2 -3 ตัวที่คนไทยใช้นะครับ ได้แก่ Facebook, Twitter, Hi5

1.Facebook, Hi5 ผมถือว่าเป็นเครื่องมือในการศึกษากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดีครับ เพราะเป็นพื้นที่ออนไลน์ที่ใครก็ได้ไปสร้างพื้นที่ สร้างตัวตนของตนเองได้ รวมถึงเป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นส่วนตัว แบ่งปันเรื่องราว สร้างกลุ่มของตนเอง นอกจากนี้ Facebook on mobile หรือ hi5 on mobile ยังช่วยให้ทุกคนสามารถแชร์ข่าวสาร หรือ multimedia ได้ทุกที่ เช่น ผมอยู่ไปเที่ยวต่างประเทศและอยากถ่ายภาพและ Upload ขึ้นไป Share ให้คนที่อยู่เมื่องไทยดู ณ ขณะนั้นได้ทันที แต่ปัจจุบัน Hi5 เริ่มมีจำนวนผู้ใช้น้อยลงครับ มักจะเป็นกลุ่มคนที่ต่ำกว่า 20 หรือคนที่เพิ่งเริ่มหันใช้ Social Networking ส่วน Facebook จำนวนคนเพิ่มมากขึ้น และ กลุ่มคนที่ใช้ Facebook เป็นกลุ่มคนทำงาน คนที่เคยใช้ hi5 ก็เริ่มมาใช้ facebook เพราะต้องการ participate ในกลุ่มเดียวกัน พูดง่ายๆคือ ไม่อยากตกเทรนด์สำหรับคนวัยทำงานด้วยกัน

การนำในแง่การนำมาใช้ในเชิงการตลาดของ Facebook

– ใช้เพื่อทำการ Recruit กลุ่มเป้าหมายโดยการ Add Friends แต่ก่อนเลือกนั้นอาจจะต้องทำการบ้านมากขึ้นโดยผ่าน Facebook Page(fan page) จะพูดถึงใน Case Study ครับ

– ใช้เพื่อสร้างกลุ่มเฉพาะเพื่อทำ CRM กับกลุ่มเป้าหมายโดยผ่านการสร้าง Group ใน Facebook

– สร้าง Viral ให้เกิดขึ้น

– สร้าง ฺBrand Awareness/Recognition ผ่านFacebook

– สร้าง กิจกรรมเฉพาะผ่าน Facebook activity invitation

– โปรโมท Fan Page หรือ เว็บไซต์ ผ่าน Facebook Ads

– ตรวจสอบความคิดเห็นของลูกค้าผ่าน Facebook Wall อย่างที่ผมเคยเขียนไว้ใน Wall ของอาจารย์ น่ะครับ

– ฯลฯ

2.Twitter เป็น micro-blogging แต่ผมให้ความเห็นว่าเป็น Online SMSครับ หน้าที่ของมันคือการ Broadcast ข่าวสาร ความคิดเห็น facts หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ของคนๆนั้น ด้วยตัวอักษร 140 ตัว ขอยกตัวอย่างเรื่องการไปเที่ยวต่างประเทศแล้วกันครับ เวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศ และอยากให้คนที่เมืองไทย รู้ว่าเราเห็น อะไร เราทำอะไร อยู่ที่นั่นบ้าง เราก็สามารถ update Twitter ของเรา เช่น “อยู่ฮ่องกงระแวก Mongkok คนเยอะมา ดูรูปที่ผมถ่าย http://xxxxx.” คนที่อยู่เมืองไทยและ Follow เราก็จะรู้ข่าวสารเราว่าเราทำอะไรอยู่ หรือเราไปอ่านเจออะไรมาและอยากให้คนอื่นได้รับข่าวสารนั้นบ้างก็สามารถ Tweet ขึ้นไปได้ครับ นอกจากนี้ คนที่ตามอ่านtwit ของเราก็สามารถทำการ Retweet หรือบอกต่อคำพูดของเราได้ ทำให้เกิด Buzz หรือ ทำ Viral Marketing

Twitter เป็นการสื่อสาร แบบ one-to-one เหมือน Chat หรือ สามารถเป็น One-to-Many เพื่อ Broadcast ให้คนทั่วไปทราบ หรือแม้แต่ Many-to-Many ที่กระจายข้อมูลได้ในวงกว้าง

ขออธิบายเรื่ององค์ประกอบและศัพท์ที่ควรรู้คร่าวๆ ของ Twitter ก่อนเพื่อให้เข้าใจมากขึ้นครับ ได้แก่

– Follower : คนที่มาตามอ่าน Twitter ของเรา

– Following : เราไปตามอ่าน twitter ของใครบ้าง

– Twit : ประโยคที่ประกอบด้วยคำไม่เกิน 140 คำ แสดงบน Timeline

– Tweeple : คนที่ใช้ Twitter เราเรียกเค้าว่า Tweeple

– @ : เป็นเหมือนการบอกหรืออ้างอิงชื่อของ Tweeple นั้นๆ อย่างของผม @maximumboy เวลาเข้าไป twitter ของผมก็จะเป็น www.twitter.com/maximumboy และเวลาคุยกับผมผ่าน Twitter ก็ขึ้นต้น ด้วย @maximumboy ตามด้วยประโยคที่ต้องการ Twit ต้องการคุยกับผม เช่น @maximumboy ทานข้าวหรือยัง ฯลฯ

– RT เป็นการขึ้นต้นประโยคที่ทำการ Twit เพื่อบอกต่อเช่น RT @maximumboy ทานข้าวหรือยัง ฯลฯ ถ้าหาก อาจารย์ทำการ Retweet ก็คือการบอกซ้ำให้กลุ่มคนที่เป็น Follower ของอาจารย์อยู่ทราบครับ ยิ่งมีการ RT มากเท่าไหร่ ก็ทำให้ข่าวของเรากระจายได้มากขึ้นเท่านั้น

สำหรับการนำในแง่การนำมาใช้ในเชิงการตลาดครับ

– ใช้กระจายข่าวสารแบบทันทีทันใด

– ช่วยในการสร้าง Viral

– ช่วยในด้านการตอบความคิดเห็นทั้งบวกและลบแบบทันทีทันใด เช่นผม Tweet ผ่านมือถือว่า “ใช้สัญญาณของมือถือค่าย Truemove ที่อ่างศิลา ตอนนี้ไม่มีสัญณาณเลย ดีที่มี Dtacด้วย” ถ้า Truemove Follow ผมอยู่และต้องการแก้ปัญหาให้ผมก็สามารถตอบกลับมาได้เลย เช่น ” @maximumboy ตอนนี้ truemove กำลังแก้ไขปัญหาที่ Station ในชลบุรีอยู่สามารถใช้ได้เวลาบ่ายค่ะ” ซึ่งเป็นสิ่งที่เราบอกลูกค้าว่าเราไม่เคยละเลยลูดค้าครับ อะไรทำนองนั้น

– ช่วยในการขายของได้ครับ แต่ไม่ค่อยดีนักและก็ไม่ควรขายแบบตรงไปตรงมา เพราะ ลักษณะของ Social Media คือการสร้างเครือข่ายที่เป็นเพื่อนซึ่งกันและกัน การขายแบบตรงๆไปเลยจะทำให้ลูกค้ารู้สึดไม่ดีกับ Brand ซึ่งจะเห็นว่าหลายองค์กรจะให้ CEO มาพูดแทน เช่น อย่าง @patee122 เป็นของคุณพาที สารสิน(nokair) การเข้าสู่ Twitter ทำให้มีคนรักนกแอร์มากขึ้น แม้ว่าTwit ส่วนใหญ่ของ @patee122 จะเป็นเรื่องทั่วไปแต่สะท้อนถึงบุคลิกดูนุ่มนวลของ CEO ส่งผลดีต่อ Brand Nokair ครับ ”

จริงๆแล้วยังได้ยก Case Studies ของมือถือเจ้าหนึ่งที่ใช้ Social Media ในการทำการตลาดอย่างได้ผลไปด้วย แต่ขอไม่นำมาลง ไว้ ณ ที่นี้ครับ

สำหรับคำตอบข้างต้นผมได้ขออนุญาติอาจารย์ท่านนี้แล้วครับ และอาจารย์ก็อนุญาติให้ผมนำลงได้ ต้องขอขอบคุณอาจารย์ ชลิต ลิมปนะเวช ไว้่ ณ ที่นี้อีกครั้งครับ


  •  
  •  
  •  
  •  
  •