ไม่ใช่เรื่องแปลกของการใช้คนดังมาเป็นตัวแทนบอกเล่าถึงผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงาม เพราะจะช่วยทำให้ผู้บริโภครู้จักสินค้ามากขึ้น และอาจจะมีผลต่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นั้นๆ มากขึ้นด้วย ดังนั้น เราจึงไม่ค่อยเห็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ด้านความงามจะเลือกใช้คนธรรมดาโนเนมมาเป็นตัวแทนให้กับแบรนด์เท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจากแบรนด์ด้านความงาม “นามุไลฟ์” (NAMU LIFE) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากเมือกหอยทาก สเนลไวท์ (SNAILWHITE) กำลังทำสิ่งที่ท้าทายวงการความงาม
ก่อนหน้านี้ เราคงเห็นเซเล็บคนดังตัวแม่แห่งวงการไม่ว่าจะเป็น อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, พลอย-เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์, ปู-ไปรยา สวนดอกไม้, ออม-สุชา มานะยิ่ง และ ฐิสา วริฏฐิสา ได้มาเป็นตัวแทนให้กับผลิตภัณฑ์ของ “สเนลไวท์” หลายชิ้นด้วยกัน ทว่าล่าสุด เราได้เห็นความเคลื่อนไหวใหม่ที่น่าสนใจจาก “สเนลไวท์” คือการขึ้นป้ายโฆษณาบิลบอร์ดขนาดใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ ด้วยภาพของคนธรรมดาและวู้ดดี้-วุฒิธร พิธีกรชื่อดัง พร้อมกับข้อความว่า “อีก 30 วันจะเปลี่ยน” ทำให้เกิดความสงสัยว่า ‘จะเปลี่ยนอะไร?’ หรือ ‘สเนลไวท์กำลังจะทำอะไร?’
กระทั่ง “สเนลไวท์” ได้ปล่อยวิดีโอเฉลยออกมาแล้วว่า คนเหล่านี้คือ ผู้เข้าร่วมแคมเปญ 30 Days Miracle กับ สเนลไวท์
httpv://youtu.be/PBh4-YohNjM
เป็นอีกก้าวที่น่าติดตามของ “สเนลไวท์” ที่ตัดสินใจใช้คนธรรมดามาเป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์ให้กับแบรนด์ โดยมาจากการร่วมกิจกรรม “30 Days Miracle” ซึ่งเป็นการรับสมัครคนทางบ้านมากกว่า 2,000 คน ให้มาร่วมท้าพิสูจน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยการใช้จริง เห็นผลลัพธ์จริงเพื่อเปลี่ยนผิวเสีย…ให้เป็นผิวสวย กับเซรั่ม NAMU LIFE SNAILWHITE MIRACLE ซึ่งตอนนี้สามารถคัดเลือกผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าที่แตกต่างกันได้แล้วจำนวน 4 คน และพิเศษกับวู้ดดี้-วุฒิธร มาร่วมแคมเปญเพื่อการันตีความโปร่งใสของแคมเปญอีกด้วย
นับเป็นอีกแคมเปญที่น่าจับตามองทีเดียวกับการใช้คนธรรมดาแทนดารา จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ซึ่งเราอาจจะเห็นไม่บ่อยนักในแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงาม
และนอกเหนือจากที่จะได้ใกล้ชิดกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น แบรนด์ยังได้นำเสนอคุณสมบัติที่ดีของผลิตภัณฑ์ให้ข้อมูลที่มาจากการพิสูจน์ของจริง ผ่านผู้ร่วมแคมเปญทั้ง 5 เป็นการการท้าพิสูจน์ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใน 30 วัน ว่าเซรั่ม NAMU LIFE SNAILWHITE MIRACLE จะสามารถเปลี่ยนผิวเสีย…เป็นผิวสวยได้หรือไม่ ซึ่งน่าจะถูกใจผู้บริโภคยุคนี้ที่แสวงหาความจริงในสิ่งที่อยู่นอกเหนือการโฆษณา เรียกว่าเป็นแคมเปญที่น่าจับตามองทั้งกลยุทธ์และผลลัพธ์ของโปรดักส์ไปพร้อมกัน ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ “สเนลไวท์” ที่เราจะกระพริบตาพลาดไม่ได้เลย
