หลายวันก่อนนั้นได้มีโอกาสเห็นโพสของเพื่อนคนหนึ่งที่เป็น Influencer ชื่อดังมาเล่าถึงประสบการณ์ในการติดต่องานจาก Agency ที่ขอให้มาช่วยรีวิวสินค้า ซึ่งการติดต่อมาของ Agency นั้นได้ติดต่อเพื่อนของผมที่เป็น Influencer ทางด้าน Technology และ Lifestyle มารีวิวอาหารเสริม ซึ่งไม่ได้ตรงกับสิ่งที่เพื่อนผมคนนั้นทำอยู่เลย ในโพสนั้นยังมีการเล่าถึง Agency ที่ติดต่อมายัง เจ้าของสินค้า หรือบริการ นั้น ๆ ให้รีวิวสินค้าตัวเองขึ้นมาด้วย ซึ่งหลายคนที่เป็น Blogger และ Influencer นั้นก็ยังงงว่า Agency กำลังเล่นอะไรอยู่ จ้างให้ไปหาคนมารีวิว ดันกลับมาจ้างตัวเองรีวิวซะแบบนั้น ทั้งนี้วันนี้เลยอยากจะมาเล่าถึงวิธีการทำงานหรือเลือก Influencer กันว่ามีแนวคิดอย่างไร
การทำงานด้านการสื่อสารทางการตลาด หรือการทำ Content Marketing นั้นการใช้ Influencer หรือคนมีอิทธิพลทางความคิดคนใน Digital หรือมีพลังในการชักจูงคนนั้นเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้าง Content ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้บ้าง เพราะด้วยเหตุผลทางจิตวิทยาของผู้บริโภคเองที่อยากจะเชื่อหรือลองทำตามที่บุคคลที่ 3 ว่าอะไรดีไม่ดี มากกว่าแบรนด์หรือองค์กรนั้น ๆ ผู้เอง ทำให้การใช้ Peer Review นั้นจึงเป็นส่วนสำคัญมากในการทำงานการ Digital Marketing ในยุคนี้ ซึ่งเมื่อมี Demand เกิดขึ้นทำให้เกิดกลุ่มคนที่เป็น influencer มากมาย และแบ่งเป็นระดับขั้นหลาย ๆ แบบ ตั้งแต่ Key opinion leader, Influencer, Blogger จนถึง Net Idol ซึ่งในแต่ละกลุ่มบุคคลหรือในระดับขั้นก็มีพลังในการ Influence ต่าง ๆ กัน เช่น Key opinion leader จะให้พลังในการโน้มน้าวมากสุด สามารถทำให้คนนั้นทำตามได้ ลองลงมาคือ Influencer ต่ำลงมาคือ Blogger ที่อาจจะสร้างการโน้มน้าวก็ได้ หรือได้แค่การสร้างกระแส สุดท้ายคือ Net Idol ที่อาจจะสร้างกระแสได้มากกว่าการสร้างการโน้มน้าว ทั้งนี้คนที่จะทำการสื่อสารทางการตลาดหรือ Digital Marketing ของตัวเองนั้นต้องมองดูวัตถุประสงค์ให้ดีว่าตัวอย่างจะทำอะไร และจะเลือกกลุ่มไหนทำงานเพื่อตอบโจทย์อะไร
ทั้งนี้เมื่อ Agency ได้โจทย์มาหรือนักการตลาดเองที่มีโจทย์ที่จะต้องใช้คนออนไลน์ในการสร้างการรับรู้หรือการชักจูงนั้น สิ่งแรกที่ควรต้องทำคือการศึกษาบริการและสินค้านั้นก่อนว่า สินค้าและบริการนั้นมีปัญหาอะไรที่เกิดขึ้น และทำไมผู้บริโภคไม่สนใจหรือไม่มาใช้บริการ นอกจากนี้ยังต้องคิดด้วยว่าสินค้าและบริการนั้นเราเหมาะกับกลุ่มคนแบบไหน หรือใครกันที่อยากจะได้สินค้านี้ ทำยังไงที่เค้าจะรับรู้และอยากได้ แล้วสุดท้ายคือประสบการณ์แบบไหนที่อยากจะให้คนใช้บริการและสินค้านั้นรู้สึกและเอาไปบอกต่อความประทับใจได้ ซึ่งเมื่อได้คำตอบแบบนี้แล้วจะทำให้เราสามารถกำหนดเลือกได้ว่า เราอยากจะได้ Influencer, Blogger หรือคนที่มีอิทธิพลใน Digital ที่สามารถตอบโจทย์ข้างต้นที่จะเป็นใครกัน
ซึ่งเมื่อต้องเลือก Key opinion leader, Influencer, Blogger หรือ Net Idol เอง ว่าจะเป็นใครจากการที่มีคนในใจแล้วนั้นคือ การศึกษาประวัติและความเป็นมาของคนที่จะใช้ทำการสื่อสารนั้นเป็นใคร มีจุดเด่นตรงไหน กลุ่มที่เค้าสื่อสารนั้นเป็นใคร เค้ารีวิวหรือชอบเล่าเรื่องอะไร สินค้าและบริการของเรานั้นจะเหมาะกับเค้าไหมและเราจะให้เค้าสื่อสารสินค้าหรือบริการของเราแบบไหน เพราะ Key opinion leader, Influencer, blogger หรือ Net idol เองก็อาจจะไม่เหมาะหรือไม่อยากเล่าแนะนำหรือรีวิวสินค้าและบริการของเราเอง ข้อดีของการศึกษาตัวตน Key opinion leader, Influencer, Blogger หรือ Net Idol จะทำให้เค้าเรารู้ด้วยว่าการสื่อสารแบบไหนที่จะเหมาะกับเค้า และจะอยากให้ Key opinion leader, Influencer, Blogger หรือ Net Idol จะให้พูดถึงสินค้าและบริการของเราในแง่มุมไหนกัน นอกจากนี้ยังสามารถกันดราม่าได้ด้วยเพราะเราจะรู้ประวัติหรือกลุ่มแฟน หรือแอนคี้แฟนของเค้าด้วย อย่างที่ได้เคยเล่าไปในบทความก่อนหน้า สุดท้ายคือการศึกษา Key opinion leader, Influencer, Blogger หรือ Net Idol แบบนี้จะทำให้คุณไม่โป๊ะแตก ไปเจอเจ้าของสินค้าหรือบริการนั้นเอง หรือได้คนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการนั้นด้วย เช่นตัวอย่างคือ มีไปติดต่อเจ้าของแอพ ให้มารีวิวแอพนั้นหรือติดต่อคนก่อตั้งเว็บบอร์ด ให้มารีวิวสินค้าลงในเว็บบอร์ดนั้น
เมื่อเลือก Key opinion leader, Influencer, Blogger หรือ Net Idol ได้แล้วการติดต่อสื่อสารก็สำคัญในการเล่าว่าเราเป็นใคร สินค้าและบริการของเราเองเป็นใคร สินค้าและบริการเรามีข้อดีและข้อเสียอะไร เราอยากให้เค้าสื่อสารสินค้าและบริการในแง่ไหน ซึ่งในการใช้ Key opinion leader, Influencer, Blogger หรือ Net Idol นี้สิ่งที่ต้องคำนึงคือการเข้าใจด้วยว่า Key opinion leader, Influencer, Blogger หรือ Net Idol นี้คือกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์และการที่จะพูดแนะนำหรือรีวิวอะไรนั้นต้องปล่อยให้ตัวตนของเค้านั้นทำไปตามอิสระที่จะเจอกันได้ระหว่างนักการตลาดกับ Key opinion leader, Influencer, Blogger หรือ Net Idol นี้เอง ทั้งนี้ต้องเข้าใจด้วยกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่จะมาประกาศหรือพูดตามที่นักการตลาดหรือ Agency ต้องการ แต่เป็นคนที่จะมาให้ความเห็นของตัวเองลงไปว่าดีไม่ดี และนักการตลาดหรือ Agency ต้องยอมรับในตรงนี้ด้วย แต่ถ้าเราสามารถหาคนที่ตรงกันระหว่างเราเองกับ Key opinion leader, Influencer, Blogger หรือ Net Idol จะสามารถทำให้ได้ Key opinion leader, Influencer, Blogger หรือ Net Idol ที่อยากทำงานกับเรา ชอบสินค้าและบริการเรา และสุดท้ายจะได้ คนที่พูดถึงแบรนด์เราดี ๆ และบอกต่อแบรนด์เราแบบที่ดีได้ด้วย
การทำงานกับ Key opinion leader, Influencer, Blogger หรือ Net Idol ที่ดีคือการทำงานที่ร่วมมือกันและทำงานเป็น Partner กัน ไม่ใช่แบบ Vendor และ Supplier ที่สั่งและต้องทำตาม เพราะเมื่อร่วมมือกันแล้วจะได้ไอเดียมากมายในการทำงานร่วมกัน แถมยังทำให้เกิดความที่อยากจะทำงานให้มากขึ้นด้วย
Copyright © MarketingOops.com
Related posts:
5 ความเชื่อผิด ๆ เรื่อง Influencer
เมื่อ Influencer มีปัญหา ถึงคราวต้องมี whitelist Influencer
ทำไมแบรนด์ต้องสร้างเครือข่าย Influencer ของตัวเอง
3 เรื่องที่ต้องคิดก่อนจะเริ่มทำ Influencer Marketing
กรณีศึกษา PewDiePie หมดยุคที่ Influencer ที่จะทำอะไรก็ได้แล้ว
Influencer เลือกผิดคิดจนตัวตาย เลือกใช้ Influencer แบบไหนดีตัวเลข ประวัติ หรือผลงาน
