Rabbit – LINE Pay บ่าว-สาวคู่ใหม่ เขย่าวงการ Payment

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

rabbit line pay2

เป็นคู่แต่งงานใหม่ เพราะว่า Rabbit และ LINE Pay ได้เซ็นสัญญา Joint Venture ร่วมกัน เป็นความร่วมมือครั้งแรกในไทยระหว่างระบบการจ่ายเงิน Offline และ Online โดยตั้งบริษัทใหม่ LINE Biz Plus Limited โดยบริษัท BSS Holdings จะเพิ่มทุนให้เป็นจำนวน 50% และบริการ LINE Pay จะเปลี่ยนชื่อเป็น Rabbit LINE Pay

ความแข็งแกร่งของทั้งคู่คือการผนวก Offline และ Online เข้าด้วยกัน โดยที่ Rabbit Card มีผู้ถือบัตรอยู่ 5 ล้านราย จากจำนวนผู้ใช้ BTS เฉลี่ยกว่า 20 ล้านเที่ยวต่อเดือน ขณะที่ผู้ใช้ LINE มีกว่า 33 ล้านรายในประเทศไทย และมีผู้ใช้งาน LINE Pay กว่า 1.5 ล้านราย ถือเป็นฐานลูกค้าที่จะมีโอกาสเติบโตมหาศาลในอนาคต ซึ่งนอกจากทั้ง 2 ผู้ร่วมทุนหลักแล้ว ยังมี KERRYexpress ผู้ให้บริการ Logistics แบบ door to door และบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ซึ่งมีการส่งของเฉลี่ย 3 ล้านธุรกรรมต่อเดือน มาร่วมเป็นพันธมิตรด้วย

LINE Pay เริ่มเป็นที่รู้จักและมีการใช้งานเติบโตสูงมาก โดยมีการใช้กว่า 8 ล้านครั้งในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา จากแคมเปญอั่งเปานำโชคจาก LINE Pay ดังนั้นจึงมีผู้ลงทะเบียนใช้งานกว่า 1.5 ล้าน และมีร้านค้าเริ่มใช้งานกว่า 250 ร้านค้า ทั้งหมดคือการสร้าง Cashless Society และ Consumer Journey ที่ทรงพลัง

RabbitLINEPay

Rabbit LINE Pay มีร้านค้าที่สามารถใช้งานได้ เช่น แม็คโดนัลด์, Lazada เป็นต้น เมื่อรวมกับบริการ โอนเงิน และจ่ายเงิน ทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่เริ่มจนจบวัน เช่น ซื้อกาแฟจากร้านแม็คโดนัลด์ เดินทางด้วย BTS ไปทำงาน ซื้อสินค้าออนไลน์จาก Lazada โอนเงินให้เพื่อน และสามารถถอนออกได้ผ่าน 4 ธนาคาร คือ SCB, Kbank, KTB และธนาคารกรุงเทพ โดยยังไม่เก็บค่าธรรมเนียม

ความน่าสนใจของการร่วมทุนในครั้งนี้ คือ ฐานลูกค้า LINE กว่า 33 ล้านราย ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ มีโอกาสได้รับความสะดวกจากการจ่ายเงินแบบ Offline และซื้อของ Online ด้วย Rabbit LINE Pay และการทำตลาดจะง่ายมาก เพราะสามารถส่งข้อความ หรือจัดโปรโมชั่นการตลาดโดยตรงเข้าไปที่สมาร์ทโฟนได้ทันที ขยายโอกาสของ Rabbit ไปยังต่างจังหวัดจากปกติที่อยู่ใน กทม. เป็นหลัก ในเบื้องต้นเชื่อว่า 10-15% จากลูกค้ารายจะขยับมาใช้งาน Rabbit LINE Pay

_BTS1696

จิน วู ลี ผู้จัดการ LINE Biz Plus Limited ประเทศไทย (LINE Pay) บอกว่าRabbit เป็นระบบการชำระเงินชั้นนำ พร้อมไปด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าออฟไลน์ที่มีชื่อเสียง เช่น แมคโดนัลด์ เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี เป็นต้น ในขณะที่ LINE Pay มีฐานพาร์เนอร์ร้านค้าออนไลน์ที่แข็งแกร่ง เช่น ลาซาด้า เอ็นโซโก้ เป็นต้น เราเชื่อว่าการร่วมทุนในครั้งนี้ จะทำให้สังคมการใช้จ่ายปลอดเงินสดแพร่หลายและเติบโตขึ้นในหมู่ผู้ใช้ไทยได้เป็นอย่างดี จนกลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำหรับธุรกิจ Payment ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

จากการประกาศการร่วมทุน Rabbit LINE Pay ในครั้งนี้ ทั้ง LINE Pay และ Rabbit จะทำงานร่วมกันทั้งในส่วนของการแชร์ อัพเดตช่องทางธุรกิจที่เป็นประโยชน์ให้ซึ่งกันและกัน แนะนำพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมร่วมกัน ถือเป็นโอกาสที่ LINE Pay จะได้ขยายช่องทางการเติมเงิน การชำระเงินให้มากขึ้นด้วยการสนับสนุนจาก Rabbit ในขณะที่ Rabbit ก็จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้ใช้สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์หลักผ่านแพลตฟอร์ม LINE Pay

Rabbit LINE Pay มีแผนจะประกาศบริการแรกกับร้านค้าหลักในฐานะบริการตัวอย่างก่อนภายในไตรมาสที่ 3 และจะเปิดให้บริการเต็มตัวในพื้นที่กรุงเทพ ภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้

12948391_10153350602261020_112222448_o

ก่อนหน้านี้ Rabbit ร่วมมือกับ mPAY ของ AIS ซึ่งเป็นการใช้ระบบ NFC เพื่อให้สมาร์ทโฟนสามารถใช้จ่ายค่า BTS และซื้อสินค้า Offline ที่เป็นพันธมิตรได้ แต่มีข้อจำกัดที่ผู้ใช้ AIS เท่านั้น และยังมีความร่วมมือกับ Aeon อีกส่วนหนึ่งด้วย ดังนั้น การร่วมมือกับ LINE Pay จะเป็นการทำลายข้อจำกัดเดิม เพราะไม่ว่าจะใช้มือถือค่ายใด ก็สามารถใช้งาน Rabbit LINE Pay ได้

ลองดูคลิปแนะนำบริการ Rabbit LINE Pay

httpv://youtu.be/58p74mLYJAc

ความร่วมมือครั้งนี้ กล่าวได้ว่าสั่นสะเทือนวงการพอสมควร โดยเฉพาะ LINE Pay ซึ่งเป็น e-Payment  ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดแล้ว ยิ่งมีความร่วมมือกับ Rabbit ต้องรอดูว่าจะช่วยส่งเสริมให้เกิด Cashless Society ในสังคมไทยได้แค่ไหน


  •  
  •  
  •  
  •  
  •