หลักการไม่ยากทั้ง 7 ข้อที่เราไม่สามารถเลือกเอามาปรับใช้กับตัวเองได้ เป็นแนวทางที่ถูกแนะนำโดยเหล่าคนทำงานเก่งในองค์กรต่างๆ จาก Businessinsider ซึ่งผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้นจริง รวมไปถึงทำให้เกิดความบาลานซ์กันระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตอีกด้วย ลองเช็คกันดูว่า 7 ข้อนี้ตรงกับคุณกันกี่ข้อ
1. ตรงเวลาเสมอ
ต่อให้ไม่ได้มีนัดสำคัญอะไร การตรงเวลาก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องทำให้เป็นนิสัย การมาสายสามารถเอฟเฟคคุณได้ตลอดวัน ลองนึกถึงความรู้สึกชาๆเวลาที่เดินเข้ามาในที่ทำงานแบบเงียบๆหลังเวลาเข้างานดูนะ ถึงจะไม่มีใครส่งสายตามองหรือสนใจ แต่ shame ในใจเราที่เกิดขึ้นไม่ว่ามากหรือน้อย อาจส่งผลให้เช้าวันนั้นเป็นวันที่เราเริ่มงานด้วยความเครียด และความกังวลโดยไม่รู้ตัว 
Rawpixel.com/Shutterstock
2. การไตร่ตรอง
การหยุดไตร่ตรองอาจไม่เคยอยู่ในแผนการดำเนินชีวิตหรือการทำงานของเราเลยก็เป็นได้ คุณเคยลองนั่งคิดเล่นๆมั้ยว่า ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน สิ่งที่คุณทำอยู่มันคืออะไร คุณกำลังดำรงสถานะอะไรอยู่ ที่ผ่านมาคุณทำอะไร และคุณกำลังจะทำอะไรต่อไป มันเป็นเรื่องดีนะ ถ้าคุณจะลองหาเวลาเงียบๆสักพัก หยุดคิดเรื่องอื่นๆเพื่อให้ตัวเองมีสมาธิเต็มที่ แล้วลองไตร่ตรองสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตของคุณในตอนนั้น มันอาจจะทำให้คุณมองเห็นอะไรบ้างอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อาจเกิดไอเดียใหม่ อาจเกิดความรอบคอบระมัดระวังหรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งมันเป็นการทำให้คุณรู้จักตัวตนของตัวเองมากขึ้น เสมือนเป็นการพิจารณาความคิดและจิตใจของตัวเอง รู้เท่าทันสิ่งที่คุณเป็นอยู่ และมีสติ 
REUTERS/Jumana El Heloue
3. แสวงหาความสะดวกสบาย
ในที่นี้คือ ความสะดวกสบายที่จะซัพพอร์ตให้เราทำงานได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โดยที่อุ้มชูร่างกายและจิตใจเราไปพร้อมๆกัน เช่น ถ้าเป็นเพวกสายนั่งทำงานยาวๆ เก้าอี้ที่ใช้ควรซัพพอร์ตการนั่งของคุณได้เป็นอย่างดี ลดการปวดเมื่อย และเซฟแผ่นหลัง หรือแม้แต่อุปกรณ์ต่างๆ คีย์บอร์ด เม้าท์ คอมพิวเตอร์ แสงสว่าง สภาพแวดล้อม ทุกอย่างควรเอื้ออำนวยให้คุณทำงานได้อย่างสะดวกสบาย เอาเวลาและความคิด ไปโฟกัสกับงานได้เต็มที่ โดยไม่ต้องมาหัวเสียกับอุปกรณ์การทำงาน และสภาพแวดล้อม ที่ทำให้การทำงานสะดุด 
mtlapcevic/Shutterstock
4. หมั่นเช็คสิ่งที่ต้องทำ และจัดลำดับความสำคัญ
แม้เราอาจจะมีตารางงานที่ชัดเจนแล้ว แต่ระหว่างทางก็จะมีสิ่งใหม่ๆที่ต้องจัดการแทรกเข้ามาเป็นเรื่องปกติ ดังนั้งที่คุณควรทำคือ หมั่นเช็คสิ่งที่ต้องทำว่ามีอะไรบ้าง ลิสต์ออกมาเป็นข้อๆ และจัดลำดับความสำคัญ ว่าควรทำอะไรก่อนอะไรหลัง วิธีนี้จะช่วยให้คุณสะสางงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
Flickr/Jennifer Morrow
5. สร้างสัมพันธ์กับคนในทีม
การมีความสัมพันธ์ที่ไหลลื่นกับคนรอบตัวจะทำให้ทุกอย่างฉลุยยิ่งขึ้น ดังนั้นคุณควรหมั่นสร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน หรือคนในทีม อย่างการพูดคุยเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับงาน แลกเปลี่ยนความเห็น จิบกาแฟ หรือทานมื้อกลางวันร่วมกัน ก็เป็นวิธีที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์ นอกจากจะทำให้การทำงานร่วมกันไหลลื่นแล้ว ตัวคุณเองและคนในทีม จะมีความสุขกับพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความเป็นมิตรอย่างแน่นอน 
Flickr/University of the Fraser Valley
6. อย่าทำหลายอย่างไปพร้อมกัน
ในแต่ละวันคุณมีพลังร่างกายและความคิดสร้างสรรค์จำกัด มหาวิทยาลัย Stanford เผยผลวิจัยออกมาแล้วว่า การทำหลายสิ่งหลายอย่างไปพร้อมๆกัน จะทำให้ประสิทธิผลของสิ่งที่ทำลดลง เพราะคุณไม่ได้โฟกัสอยู่กับสิ่งนั้นๆอย่างเต็มที่ เช่น ระหว่างเช็คเมลหรือตอบเมล คุณควรจะปิดหน้าต่างเฟสบุ๊ค หรือ ระหว่างประชุมคุณไม่ควรเช็คอีเมล เพราะนั่นแสดงว่าคุณไม่ได้โฟกัสกับสิ่งที่คุณต้องทำอยู่ในขณะนั้น 
Reuters
7. จัดตารางเวลาล่วงหน้า
โฟกัสกับปฏิทินให้มากๆ จดนัดสำคัญ เดดไลน์ หรือสิ่งที่ต้องทำ ให้เป็นระเบียบและถูกช่อง หลายคนพลาดกันมาแล้วกับตารางเวลา ดังนั้นคุณควรให้ความสำคัญกับการจัดปฏิทินของตัวเองในแต่ละเดือนให้ดี และการทำเช่นนี้จะทำให้ชีวิตคุณเป็นระบบมากขึ้น คุณจะมองเห็นภาพรวมของช่วงเวลาต่างๆในชีวิต และสามารถวางแผนเรื่องต่างๆล่วงหน้าได้ดีขึ้น 
Rainer Stropek/Flickr
