งาน Web Wednesday#WWTH จะเรียกว่างานชุมนุมของบรรดาคนออนไลน์ทุกยุคทุกสมัยได้เวียนกลับมาอีกครั้ง ประเมินคร่าวๆ แล้วคิดว่ามีคนมางานหลักร้อยแน่นอน ครั้งนี้จัดงานที่ร้าน Do Not Disturb เหมือนครั้งที่ผ่านมา ส่วนที่บอกว่า “ขาดแคลนคน” ไม่ได้หมายถึงขาดแคลนคนมางาน แต่หมายถึงเสียงจากบริษัทเทคฯ หลายรายที่บอกว่า ขาดคนทำงาน ดังนั้นใครกำลังมองหางานอยู่ ลองไปสำรวจกับดูได้
จุฑาศรี คูวินิชกุลหรือ จูน แห่ง Grab (หรือเดิมคือ GrabTaxi) บอกว่า ความท้าทายอย่างแรงของบริษัทเทคโนโลยี และ Startup ในวันนี้คือ Tech Talent คนไทยหายไป ขณะที่ธุรกิจกำลังขยายตัว แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคคือ กำลังคนไม่เพียงพอ จนต้อง Import คนจากต่างประเทศ แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่างประเทศไทยไม่ได้ดึงดูดคน เมื่อเทียบกับสิงคโปร์ที่ต้อนรับ Tech Talent จากทั่วโลก ดังนั้นถ้าจะเห็น Startup ไปตั้งบริษัทที่สิงคโปร์ นอกจากเรื่องการลงทุนและภาษีแล้ว การหาคนก็ง่ายกว่า
อริยะ พนมยงค์ หรือ บี๋ แห่ง LINE ประเทศไทยให้ข้อมูลในทำนองเดียวกันว่า LINE ประเทศไทยก็ขาดแคลนคนเช่นเดียวกัน ยิ่งเป้าหมายในปีนี้คือ การขยายการใช้ LINE ให้เป็นมากกว่า Chat มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจ มีผู้ใช้ระดับองค์กร ที่เข้ามาใช้บริการ เป็น Platform ที่รองรับบริการได้หลากหลาย กำลังคนคือส่วนสำคัญที่ LINE ต้องการ
อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ หรือ บอย จาก Pantip.com เว็บโซเชียลพันธุ์ไทยแท้ ที่มีอายุกว่า 20 ปี และ ทิวา ยอร์ค จาก Kaidee.com เว็บขายของที่ไม่ใช้แล้วชื่อดังของไทย ยืนยันตรงกันว่า ต้องการบุคลากรด้านเทคโนโลยี Data Analytics ยิ่งในยุคที่ข้อมูลมหาศาลระดับ Big Data แบบนี้ยิ่งต้องการมากขึ้น
ประเด็นเรื่อง “คนขาดแคลน” สะท้อนให้เห็นว่า รัฐและสถาบันการศึกษาต้องเร่งมือสร้างบุคลากรให้มากขึ้น และต้องตรงกับความต้องการของอุตสหกรรม พร้อมกับเปิดกว้างดึงดูด Tech Talent จากทั่วโลกให้อยากมาทำงานที่ประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพพร้อมอยู่แล้ว เป็นเมืองที่คนทั่วโลกอยากมา หากมีมาตรการรองรับการมาของแรงงานระดับสูง จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจมากกว่า
อีกส่วนที่สำคัญคือ การสนับสนุนการเป็น Startup รายใหม่ไม่ใช่ให้เด็กจบใหม่กระโดดมาทำงานตั้งแต่เริ่ม เพราะยังขาดประสบการณ์ทั้งการบริหาร และการทำธุรกิจที่มีทั้งเรื่องการเงิน กฎหมาย และการลงทุน สรุปแล้ว ใครกำลังมองหางานด้าน Technology อยู่ บอกเลยว่าบริษัทต่างๆ กำลังต้องการคุณ
