นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SC แถลงแผนธุรกิจปี 2559 โดยเปิดเผยว่า “บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% โดยเป็นยอดขายและรายได้ที่ 15,000 ล้านบาท พร้อมกับแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 24,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 8 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท พร้อมกับคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท โดยวางงบประมาณการซื้อที่ดินไว้ 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ได้ประกาศย้ำการเติบโตคุณภาพยั่งยืนตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ซึ่งในปี 2562 บริษัทจะมีรายได้ 20,000 ล้านบาท พร้อมสรุปความสำเร็จในปี 2558 ที่ผ่านมาว่า SC เติบโตควบคู่ ทั้งปริมาณและคุณภาพอย่างยั่งยืน รายได้รวมปีที่ผ่านมาเติบโตเกินเป้าหมาย พร้อมกับมียอดขาย 12,516 ล้านบาท เติบโต 47% เมื่อเทียบกับปี 2557”
นายณัฐพงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปี 2559 เศรษฐกิจประเทศไทยน่าจะยังเติบโตได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ด้วย 3 เครื่องยนต์สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้คือ G + I + T (การลงทุนภาครัฐ + การลงทุนภาคเอกชน + การท่องเที่ยว) ซึ่งมีสัดส่วนถึงเกือบ 40% ของ GDP ประเทศ อันมีส่วนอย่างมากในการกระตุ้นเครื่องยนต์ตัวอื่นๆ โดยปัจจัยบวกเพิ่มเติมของธุรกิจอสังหาฯ คือ ต้นทุน ที่ยังไม่เพิ่มขึ้น 3 อย่าง คือ น้ำมัน ค่าก่อสร้าง และดอกเบี้ย ในขณะที่ข้อน่ากังวลสำหรับปีนี้คือ สัดส่วนของหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ที่ยังสูงอยู่ ถึงแม้ว่าการเติบโตของหนี้จะชะลอตัวอย่างชัดเจน และสัดส่วนของหนี้ NPL ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เราคาดการณ์ว่า สถานการณ์ของหนี้จะเริ่มดีขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ 2560 เป็นต้นไป”
อย่างไรก็ตาม มองกลับมาที่ฐานลูกค้าของ SC ถือว่ายังแข็งแรงอยู่มาก “โดยปี 2558 ที่ผ่านมา ลูกค้าเราโอนกรรมสิทธ์ด้วยเงินสดมากกว่า 1 ใน 3 ของมูลค่าทั้งหมด และตัวเลขสัดส่วนการถูกปฏิเสธจากธนาคาร (bank rejection rate) ต่ำกว่า 10% สะท้อนถึงความแข็งแรงของฐานลูกค้า SC ในปี 2559 เราจึงมั่นใจในความแข็งแกร่งของ luxury segment ที่เราเป็นผู้นำด้าน market share อยู่ โดยใน 10 โครงการใหม่ที่ SC เปิดในปีนี้มีมูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท เป็นโครงการ luxury segment มากกว่า 80%
และในปีนี้นอกจากเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง นวัตกรรม จะเป็นอีกกลยุทธ์ที่เราให้ความสำคัญ เพื่อให้ SC สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของ ผู้อยู่อาศัยได้มากที่สุด ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไปทุกปี และเปลี่ยนแปลงเร็วมากภายใน 5 ปีที่ผ่านมา ด้วยความเร็วของการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในฐานะของผู้พัฒนาอสังหาฯ เราต้องวิ่งเร็วกว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงทุก ๆ ปี”
สำหรับไตรมาสแรกนี้ SC เปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท ได้แก่ คอนโดมิเนียม 1 โครงการ และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ เป็น คฤหาสน์หรูซีรีย์ใหม่ 2 โครงการ ที่สร้างสรรค์นวัตกรรม eldercare solution สำหรับห้องนอนชั้นล่าง เป็นพิเศษ เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งพร้อมเปิดทางการ วันที่ 27-28 ก.พ.นี้ คือ
1. โครงการ BEATNIQ สุขุมวิท 32 คอนโดมิเนียมขนาดอาคารสูง 34 ชั้น ติดถนนสุขุมวิท และอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อเพียง 250 เมตร มีดีไซน์เอกลักษณ์และสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจสไตล์โมเดิร์นช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ในยุค Mid-Century Modern (MCM) พื้นที่โครงการ 1-3-69 ไร่ จำนวน 197 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท ซึ่งผู้สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ www.beatniq32.com
2. โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-จรัญฯ ติดถนนตัดใหม่ พรานนก- พุทธมณฑลสาย 4 เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง ด้วยถนนใหญ่ขนาด 8 เลน ใกล้ รพ.ศิริราช เพียง 15 นาที พื้นที่ 61-1-20.3 ไร่ มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท เพียง 92 หลัง ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท
3. โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ต้นถนนบางนา-ตราด ใกล้รถไฟฟ้าสถานี แบริ่งและไบเทคบางนา ใกล้โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา พื้นที่ 47-3-56.1 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท เพียง 65 หลัง ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
นายณัฐพงศ์ กล่าวด้วยความมั่นใจว่า “ถึงแม้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร SC จะต้องเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งปริมาณและคุณภาพควบคู่กัน”