Ad Blocker เป็นปัญหาสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นในหมู่นักการตลาดและคนทำโฆษณาเอเจนซี่ที่ไม่สามารถสื่อสารข้อความต่าง ๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ ทั้งนี้ปัญหา Ad Blocker นี้กำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแม้แต่นักการตลาดหรือคนทำเอเจนซี่เองก็ยังใช้ Ad Blocker เพื่อปิดกั้นไม่ต้องแสดงผลโฆษณาประเภท Banner ต่าง ๆ อย่างมากมาย ทั้งนี้ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสื่อสารแบบขายของ ทำอย่างไรละที่จะเอาชนะ Ad Blocker ได้ ในตอนนี้เราจะมาหาคำตอบกัน
ก่อนอื่นเลย Ad Blocker นั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากที่นักการตลาดหรือคนทำเอเจนซี่นั้นจ้องแต่จะแสวงหาผลกำไร หรือเอาเปรียบผู้บริโภค ไม่ได้คิดที่จะทำการตลาดหรือโฆษณาที่ดีออกมา ทำให้ Content ที่เป็นเชิงการตลาดมากมายกลายเป็น Content ที่คนนั้นไม่มีความสนใจ หรือเรียกได้อย่างง่าย ๆ ว่า Content ขยะ และหลาย ๆ โฆษณาก็สร้างความรำคาญให้ผู้บริโภคแทนที่จะให้ประโยชน์หรือความบันเทิง ซึ่งคนทำการตลาดและโฆษณาเองก็คงมีจำนวนไม่น้อยที่รำคาญ Pre roll ads เวลาที่ต้องการดูคลิปใด คลิปหนึ่ง แต่หากจำเป็นต้องลงมือทำละ จะทำอย่างไรดีเพื่อเอาชนะกำแพง Ad Blocker นี้? ก่อนอื่นที่จะรู้วิธีแก้นั้น วิธีต่อไปนี้เป็นวิธีระยะสั้น ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาถาวรต่อการมาถึง Ad Blocker และอาจจะเป็นวิธีการที่ไม่เป็น Digital Media ด้วย
ใช้ TV ในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง
แม้ TV จะดูเป็นสื่อแบบเก่าหรือสื่อดังเดิม แต่อยากลืมพลังของ TV ที่สามารถเข้าถึงทุกกลุ่ม ทุกคนได้อย่างมากมาย ด้วยการสร้าง Content ที่สามารถได้ทั้ง Online และ Offline นักการตลาดสามารถที่จะใช้สื่อ TV นี้ในการสร้างข้อความทางการตลาดส่งไปถึงผู้บริโภคได้ อย่าไปติดว่าจะเป็น TVC เท่านั้น แต่ยังสามารถแทรกในสื่ออื่น ๆ ได้ เช่น ข่าว, รายการต่าง ๆ หรือการเข้าไปเป็น Sponsor ของ Series ต่าง ๆ รวมทั้งการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ถ่ายทอดสดได้ และนอกจากนี้ลองนึกภาพว่าถ้าเอาสื่อ TV นี้มารวมพลังกับสื่อสมัยใหม่อย่าง Social Media สร้างกระแสการพูดถึงเข้าไปในช่วงนั้นอีก จะเป็นอย่างไรบ้าง พลังจะมีมากแค่ไหน ไม่ต้องนึกไหนไกล ตัวอย่างงาน Superbowl นี้อีกที่เป็นอำนาจพลังของ TV
ใช้ OOH เป็นตัวสื่อสารถึงผู้บริโภค
ด้วย OOH สมัยนี้กำลังพัฒนาไปเป็น Digital OOH ทำให้นักการตลาดหรือคนทำการสื่อสารทางการตลาดสามารถสร้างสรรค์สื่อทางการตลาดให้มีความคิดสร้างสรรค์ได้มากมาย หรือถ้าคิดไม่ได้ การเอาโฆษณามาใส่ตรง ๆ เพื่อให้คนมองเห็นหรือจดจำได้ก็ยังเป็นทางเลือกหนึ่งได้ในนี้ ด้วยสื่อ OOH นี้เป็นสื่อแบบบังคับให้เห็น ให้มองเวลาที่ต้องผ่านหรือรอตามที่ต่าง ๆ นอกจากนี้สื่อ OOH ในยุคนี้ยังมี Location หรือตั้งตามสถานที่ต่าง ๆ มากมาย ทำให้สามารถ Customise ข้อความต่าง ๆ หรือสื่อต่าง ๆ ให้เหมาะสมต่อสถานที่ที่ OOH นั้นตั้งอยู่ได้ หรืออาจจะออกแบบให้เกิด Interactive ทำให้สามารถเชื่อมกับการเล่น Social Media ต่าง ๆ ได้อีกมากมายอย่างที่ต่างประเทศนั้นทำกัน
Direct Mail และ EDM ยิงถึงผู้บริโภค
การทำ Direct mail (DM) นั้นก็ยังเป็นวิธีการที่ใช้ได้ดีอยู่ในปัจจุบัน แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องแค่นั้นเองเพื่อที่จะให้ผู้บริโภคสนใจ ข้อดีของการทำ Direct mail คือการที่ผู้บริโภคเป็นคนให้ข้อมูลและสนใจที่จะรับข่าวสารนั้นเองขึ้นมา ทำให้เราสามารถดีไซน์และออกแบบ Direct mail ที่จะถึงผู้บริโภคนั้นได้อีกด้วย และอย่างน้อยก็ไปรวมอยู่ในกล่องไปรษณีย์ที่เค้าต้องเห็นก่อนที่จะเลือกหรือไม่เลือกอ่าน ซึ่งดีกว่าการบอกไม่รับไปเลย
นอกจาก DM แล้ว การทำ Electronic Direct Mail (EDM) ก็เป็นหนทางหนึ่งที่พัฒนามาจากการทำ DM เช่นกัน และข้อดีกว่าการทำ DM ของ EDM คือการที่มันเป็น digital และสามารถปรับแต่งได้ง่ายกว่า EDM อย่างมาก พร้อมทำให้สามารถ interative หรือเก็บข้อมูลต่าง ๆ ในการกดอย่างทันที แถมยังสามารถปรับเปลี่ยนตามความสนใจของแต่ละคนได้ด้วย
Social Media Messenger ในการ Push ข้อความเข้าไป
Social Media Messenger นั้นถือเป็นที่คนนั้นมีปฏิสัมพันธ์อย่างสูง และเกิดการแชร์ข้อมูลไปมาระหว่างกันได้ง่าย ซึ่งการส่งข้อความจากผู้ให้บริการเข้าไป คนนั้นย่อมมีความสนใจอย่างมากในกิจกรรมข้อความเหล่านั้นว่ามีข้อความสำคัญอะไร ข้อความใน Social media messenger นั้นยังสามารถทำให้เหมือน EDM ได้ด้วยตรงที่สามารถทำให้มันเป็น Personailise ให้เหมาะกับแต่ละคนว่าอยากรับรู้ข่าวสารอะไร และ Promotions แบบไหนที่จะเหมาะกับกลุ่มคนแบบใดกัน
อยากไรก็ตามทางออกที่กล่าวไปทั้งหมดนั้น เป็นทางแก้ในระยะสั้นหรือชั่วคราวเท่านั้น หนทางแก้ระยะยาวมีแต่การทำ Content ที่น่าสนใจและเลิกการทำ Content ขยะที่คนไม่สนใจลงไป การเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวเป็นส่วนสำคัญมากกว่าที่จะชนะ Ad Blocker ต่อไปได้
Copyright © MarketingOops.com