การออกแบบโลโก้รถยนต์เท่ๆ อย่างเฟอร์รารี่ ทำให้ปัจจุบันมีการออกแบรนด์เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าที่มาพร้อมกับโลโก้รถยนต์เฟอร์รารี่ สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่าโลโก้ และความเท่ของแบรนด์ สามารถเป็นตัวสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
โอกาสนี้เราจึงอยากนำข้อมูลที่หลายคนไม่เคยรู้เกี่ยวกับที่มาของโลโก้แบรนด์รถยนต์ดัง! ทำไมต้องตั้งชื่อนี้และออกแบบโลโก้แบบนี้ เรามาดูรายละเอียดกันเลย
1. ดาวลูกไก่ของซูบารุ
ใครเป็นแฟนรถแข่งวิบากย่อมรู้จักแบรนด์รถยนต์อย่าง “ซูบารุ (Subaru)” ที่โลโก้ของแบรนด์มีที่มีจากกลุ่มดาวลูกไก่ ซึ่งดาวแต่ละดวงนั้นาจากการรวมตัวกันของหลากบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นจนมาเป็นบริษัท Fuji Heavy Industries โดยรถยนต์คันแรกถูกผลิตขึ้นเมื่อปี 1954
2. ดาว 3 แฉกของเบนซ์
ที่มาของโลโก้ที่แสดงถึงความหรูหรา และความเป็นผู้นำนี้ถูกย้อนไปตั้งแต่ปี 1870 ที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์ชาวเยอรมันอย่าง Gottlieb Daimler ส่งไปรษณียบัตรหาภรรยาและมีการวาดรูปนี้ลงไปด้วย ซึ่งความหมายก็ชื่อดาวที่แสดงความเหนือชั้น ล้ำกว่่าผืนดิน ทะเล และอากาศ
3. เครื่องหมายบวกที่ทรงพลังจากเชฟโรเรต
คนรุ่นหลังจดจำแบรนด์รถ เชฟโรเรต (Chevrolet ) ได้จากหนังเรื่องทรานซ์ฟอร์มเมอร์ แต่จริงๆ แล้วรถอเมริกันพันธุ์แกร่งได้ไอเดียโลโก้นี้มาจากภาพในผนังของโรงแรมแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสที่เจ้าของโรงแรมคือ William Durant เจ้าของเครือผู้ผลิตรถยนต์ GM บริษัทแม่ของ เชฟโรเรต นั่นเอง
4. กระทิงคะนองจากลัมโบกินี่
แบรนด์รถสปอร์ตหรูจากสเปนนี้มีที่มาของโลโก้จากความทรงจำในวัยเด็กของผู้ก่อตั้งอย่าง Ferruccio Lamborghini ที่ใช้ชีวิตอยู่กับนักแข่งวัวกระทิงมาตลอด เมื่อมาทำรถสปอร์ต ก็เอาสปิริตของการแข่งวัวมาใส่ในรถคันแรงของตนด้วย
5. กังหันสีฟ้าจากบีเอ็มดับบลิว จริงหรือ?
คนทั่วไปมักจะคิดว่าโลโก้ของรถยนต์หรูจากเยอรมันอย่างบีเอ็มดับบลิวจะมาจากกังหัน แต่ที่แท้จริงสีฟ้าขาวนั้นมาจากสีประจำธงชาติของคนเผ่าพื้นเมืองของเยอรมันอย่างชาวบาร์วาเรียนนั่นเอง
6. ลูกศรชี้ไปข้างหน้ากับเส้นทางของวอลโว่
ถึงแม้วันนี้แบรนด์วอลโว่จะตกอยู่ในมือของจี๋ลี่แบรนด์รถยนต์ของจีนแล้ว แต่ที่มาดั้งเดิมเป็นแบรนด์รถจากสวีเดน ซึ่งโลโก้ก็มาจากเทพเจ้าแห่งสงคราม ซึ่งต้องการสะท้อนถึงความเป็นชายชาตรีและความแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นจุดขายตลอดกาลของวอลโว่นั่นเอง
7. เฟอร์รารี่มีดีที่สีเจ็บๆ
โลโก้มากระโดดของแบรนด์รถยนต์จากอิตาลีนี้จริงๆ มาจากภาพวาดที่ติดข้างเครื่องบินรบเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และแม่ของนักบินคันนี้ก็เอารูปนี้มาติดที่รถของตัวเองด้วยเช่นกันเพื่อนำมาซึ่งโชคดีๆ ร้อยปีผ่านมาโลโก้นี้ก็ยังอยู่และนำไปใช้ในรถแรงๆ อย่างเฟอร์รารี่นั่นเอง
หากคุณสนใจที่มาของโลโก้ ขอแนะนำให้คลิกอ่านต่อบทความก่อนหน้าที่เกี่ยวกับที่มาของการวิวัฒนาการในการออกแบบโลโก้ดังต่างๆ ที่นี่