ในไทย Facebook อาจจะยังฮิตสุดๆในทุกวัย แต่ในสหรัฐอเมริกาเริ่มมีกระแสมาเรื่อยๆว่าเฟซบุ๊คเริ่มเสื่อมความนิยมในหมู่เด็กวัยรุ่นยุคใหม่
เริ่มจากคำวิเคราะห์ของบริษัทเฟซบุ๊คเองในรายงานที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่าความเสี่ยงของบริษัท คือการที่เด็กยุคใหม่ๆมีแนวโน้มจะใช้งานน้อยลง (เป็นกฏของบริษัทที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ต้องวิเคราะห์ตัวเองหลายๆด้านรวมถึงจุดอ่อนด้วย)
ต่อจากนั้นเมื่อมีผู้บริหารเฟซบุ๊คชื่อ Blake Ross ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ลาออก เขาก็ได้เขียนในเฟซบุ๊คของตัวเองว่าลาออกเพราะมองว่าในอนาคตเฟซบุ๊คอาจจะไม่เติบโตเพราะเหตุผลเดียวกันนี้
ซึ่งเรื่องนี้ในระยะสั้นก็อาจไม่สำคัญเท่าไหร่เพราะมีผู้ใช้หลากหลายวัยอยู่แล้ว แต่ในอนาคตระยะยาวก็เป็นเด็กรุ่นใหม่นี่เองที่จะมาเป็นฐานหลักของกิจการต่อไป
เหตุผลสำคัญที่หลายฝ่ายสำรวจพบคือ การที่มีผู้ใหญ่และสูงวัยขึ้นมาเล่นเฟซบุ๊คมากขึ้นทุกวัน ทำให้เด็กๆและวัยรุ่นไม่น้อย ที่รู้สึกไม่ไว้ใจ ไม่กล้าบอกเล่าหรือแชร์อะไรมาก เพราะกลัวพ่อแม่ ครู ญาติ เพื่อนพ่อ เพื่อนแม่ ฯลฯ จะมาสอดส่องรู้เห็นและนำไปมาตำหนิ หรือไปบอกต่อให้พ่อแม่ตัวเอง
นอกจากนี้ก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็วมากของเครือข่ายสังคมใหม่ๆอย่าง Tumblr ที่วัยรุ่นและหนุ่มสาวใช้งานกันเพิ่มขึ้นมากทั้งจำนวนคนและเวลาที่ใช้ และยังมีแอพหรือเครือข่ายสังคมใหม่ๆมาแรงอย่าง Instgram, Snapchat (ซึ่งเฟซบุ๊คเพิ่งซื้อกิจการไปทั้งคู่) , Pheed เป็นต้น
แอพอื่นๆที่ไม่ได้เป็น social network มาก่อน ก็ขยับขยายมาเปิด social network ด้วย เช่น Line, Wechat ของญี่ปุ่นที่สุดฮิตทางเอเชียเรา และ Spotify ที่เคยเป็นแหล่งฟังเพลงซื้อเพลงก้ใส่ความเป็น social เข้าไป
…
กระแสนี้อาจจะมาถึงไทยต่อไปในไม่ช้า หรืออาจจะไม่มีเลยในไทย ต้องติดตามกันต่อไป …
image : mashable.com