Beyonce นักร้อง R&B หญิงแห่งยุคนี้ที่มีหลาย ๆ คนชื่นชอบ และติดตามผลงานตลอดเวลา และมีข่าวมากมายในตลอดระยะเวลาที่เธอทำงาน รวมทั้งอัลบั้มอย่าง Lemonade ที่สร้างเสียงฮือฮาอย่างมากในตอนที่ออกมา ทั้งนี้นักการตลาดหลาย ๆ คนในต่างประเทศมีความสนใจในการบริหารจัดการชีวิตทั้งหน้ากล้องและหลังกล้องของ Beyonce อย่างมาก และทำให้แบรนด์นั้นสามารถเอามาเรียนรู้วิธีบริหารจัดการแบรนด์จาก Beyonce ได้เลยทีเดียว
Beyonce นั้นนิตยสาร FastCompany ที่ยกให้เป็นนักร้องที่ชื่อกลายมาเป้นแบรนด์ที่ทรงพลังแบรนด์หนึ่ง เพราะด้วยการสร้างแบรนด์ของ Beyonce นี้ทำให้วงการดนตรีนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย เกิดแฟนมากมายที่มีจุดศูนย์รวมเดียวกันที่เรียกว่า Beyhive และความสำเร็จของเธอยังเอามาใช้ในธุรกิจต่าง ๆ มากมายอีกด้วย นอกจากนี้วิธีการบริหารจัดการของ Beyonce เองก็เป็นบทเรียนให้องค์กรน้อยใหญ่นั้นได้เรียนรู้อย่างมากมายในการจัดการองค์กรและทำให้องค์กรเกิดแฟน ๆ ที่จะรักขึ้นมาได้แบบ Beyonce ทั้งนี้ Beyonce นั้นทำอย่างไรถึงประสบความสำเร็จและทรงอิทธิพลขนาดนี้ได้ บทเรียนของ Beyonce เกิดขึ้นในช่วงอัลบั้ม Lemonade วางแผนซึ่งเป็นอัลบั้มประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เพราะเพียงในช่วงที่ HBO โฆษณาว่าจะมีคอนเสิร์ตครั้งสำคัญ ซึ่งยังไม่มีแม้แต่รายละเอียดใด ๆ อัลบั้ม Lemonade ดังกล่าวก็ถือ Stream ผ่านออนไลน์ 115 ล้านครั้งใน 6 วันที่โฆษณาของ HBO ออกมา แต่ละเพลงในอัลบั้มซึ่งมี 12 เพลงนั้นต่างก็มี Music Video เป็นของตัวเอง และรวมกัน 12 Music Video นี้กลายเป็นภาพยนต์สั้น 1 เรื่องที่มีเนื้อหาที่ร้อยต่อกัน กลายเป็นบทกวี แห่งจินตนาการและเรื่องราวที่คนตีความว่าคือชีวิตของ Beyonce ซึ่งด้วยกระแสนี้ทำให้อัลบั้ม Lemonade นั้นขึ้นกลายเป็นอัลบั้ม No.1 ของ Billboard ในทันที
httpv://www.youtube.com/watch?v=BB5zLq1zcdo
ทำไมอัลบั้ม Lemonade และ Beyonce ถึงกลายมามีความน่าสนใจในทางการตลาดและการบริหารจัดการแบรนด์ เพราะ Beyonce นั้นมีความรุ้ความเข้าใจในการจัดการแบรนด์อย่างมาก ว่าจะบริหารจัดการแบรนด์และทำกระแสของแบรนด์อย่างไรให้เกิดแฟน ๆ ที่ติดตามมาได้ ทั้งนี้เหตุการณ์เริ่มขึ้นก่อนที่อัลบั้ม Lemonade จะออกมา ในปี 2014 มีภาพที่ออกมาระหว่าง Solange น้องสาว Beyonce, Jay-Z ที่เป็นสามีของ Beyonce และ Beyonce ที่ออกมาจากลิฟท์ ทำให้สำนักข่าวต่าง ๆ เริ่มขุดคุ้ยเรื่องราวส่วนตัวของ Beyonce จนพบเรื่องที่ว่า Jay-Z นั้นนอกใจไปมีสัมพันธ์กับน้องสาว Beyonce แต่แทนที่ Beyonce จะออกมาตอบโต้ข่าวซุบซิบเหล่านี้ หรืออธิบายว่าเกิดอะไรเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ Beyonce ทำคือการทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ตัวเองชัด จากความเป้นผู้หญิงที่มีความแข็งแกร่ง (นึกตัวอย่างเพลง Single Lady) ที่ไม่ให้คำอธิบายใด ๆ นอกจากบอกว่าจะทำอะไรต่อไปจากเหตุการณ์นี้และเคลียร์ข่าวฉาวของน้องสาวตัวเองที่มีนิสัยชอบดื่มจัดแค่นั้น สิ่งที่ทำคือการไม่ให้ทั้ง Jay-Z หรือ Solange ออกมาให้สัมภาษณ์อะไรในเรื่องนี้ และสิ่งที่ Beyonce ทำคือการทำอัลบั้ม Lemonade ออกมาเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวตนและอธิบายว่าเป็นอะไร เพราะ Product คือการพูดที่ดีที่สุด คือ Marketing ที่ดีที่สุด
httpv://www.youtube.com/watch?v=Jhu2I_Luv74
สิ่งที่ Beyonce ทำนั้นเป็นสิ่งที่ใช้สุภาษิตคือ Action speak lound than words หรือการกระทำดีกว่าคำพูด เพราะ Beyonce เอาเวลาไปทำงานให้ดีที่สุดเพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเองต่อแฟน ๆ ที่ติดตามไม่ให้ผิดหวังในผลงาน ทำให้การกระทำอัลบั้มนั้นลบข้อครหาแถมยังทำให้เธอกลับมาเป็นแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ได้ สิ่งสำคัญที่ต่อมาคือการจัดการ Crisis ของเธอเองที่เธอรู้จักความคุมเหตุการณ์ โดยไม่ให้คนที่เกี่ยวข้องให้ข่าวใด ๆ นอกจากเธอเอง และควบคุมกระแสความอยากรู้ของคนต่าง ๆ ไปสู่อัลบั้มที่เกิดขึ้นมาได้ นอกจากนี้เธอยังเข้าใจวิถีของโลกผู้บริโภคอย่างมาก เพราะด้วยอัลบั้มของเธอที่ทำออกมาเป็นวิดีโอทั้งหมด และใช้โลกของ Digital ให้เป็นประโยชน์อย่างมากที่วิดีโอกำลังเป็นกระแสอยู่ และรู้ว่าจะใช้ Platform แต่ละอย่างสร้างแบรนด์ สร้างกระแสได้อย่างไร แถมเธอยังกลายที่จะทดลองอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอเพราะเป็นศิลปินแรก ๆที่เอาเพลงตัวเองไปลง Youtube เอาเพลงไปลงใน spotify เพื่อให้ทันความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ๆ ตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ได้ดีกว่าไม่ลองอะไรใหม่ ๆ เลย สุดท้ายเธอเป็นคนที่สร้างภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งแทนที่จะโยนความผิดต่าง ๆ ให้คนรอบตัว เธอกลับแบกทุกอย่างเอาไว้และเคลียร์ทุกประเด็นผ่านทางการทำงานให้ดู
นอกจากนี้เมื่อ Superbowl ที่ 2016 ผ่านมา Beyonce ยังได้แสดงตัวตนของแบรนด์ของตัวเองว่ามีจุดยืนอย่างไร โดยการแต่งตัวเพื่อแสดงออกถึงเรื่องสิทธิคนผิวดำ และการแสดงที่บ่งชี้ถึงเรื่องนี้ ทำให้ผู้คนที่ติดตามนั้นถึงกับตะลึงในการแสดงเลยทีเดียว จากเหตุการณ์นี้มีทั้งคนที่ขอบและไม่ชอบออกมา ซึ่งสิ่งนี้เป็นบทเรียนให้แบรนด์เช่นกันว่า Beyonce มีจุดยืนในแบรนด์อย่างมากของตัวเองว่าคืออะไรในใจแฟน และทำหน้าที่อะไร นอกจากยังรู้ว่าจะเลือกฐานแฟนแบบไหนไว้และไม่เอาฐานแฟนแบบไหนไว้ (คุณไม่สามารถทำให้คนทั้งหมดชอบคุณ) และทำสิ่งที่ตัวเองทำนั้นให้ดีที่สุดอีกด้วย ซึ่งนี้ทำให้ตัว Beyonce เองไม่ได้เป็นแต่เพียงนักร้อง แต่ยังกลายเป็นแบรนด์ที่นักการตลาดหลาย ๆ คนเอาไปประยุกต์ใช้ได้อีกด้วย CMO AirBnB Jonathan Mildenhall บอกว่า Beyonce มีสิ่งที่นักร้องทั่วไปไม่มี คือการเข้าใจว่าจะพัฒนาแบรนด์ของเธออย่างไร และแบรนด์ Beyonce เองก็กลายเป็นแบรนด์หนึ่งที่สำคัญใน Pop culture ปัจจุบันอีกด้วย
httpv://www.youtube.com/watch?v=SDPITj1wlkg
ทั้งนี้บทเรียนการตลาดของ Beyonce นี้เป็นตัวอย่างที่ในการสร้างแบรนด์ ทำการตลาดและการสร้างแฟนขึ้นมา และนักการตลาดใน Startup ในหลาย ๆ ที่ก็ใช้วิธีการเหล่านี้ในการทำแบรนด์ของตัวเองเช่นกัน นักการตลาดที่ดีต้องไม่ได้แค่ศึกษาการตลาดจากตำราวิชาการเท่านั้น แต่ยังมีตัวอย่างที่ดีมากมายให้เปรียบเทียบและทำการศึกษาอย่าง ขุ่นแม่ Beyonce
ลองอ่านเพิ่มเติมขาก FastCo