ว่ากันว่าปีนี้ถ้าแบรนด์ไหนอยากทำตลาดให้โดนใจผู้บริโภค ต้องเน้น Emotional Marketing เน้นสร้างประสบการณ์ เชื่อมต่อด้านอารมณ์ และความรู้สึก โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนใช้ Social Media กันอย่างแพร่หลาย ยิ่งทำให้การตลาดแบบเข้าถึงอารมณ์ถูกส่งต่อกันได้ง่าย
และสิ่งหนึ่งที่พัฒนาไปตามเทคโนโลยีคือ วิถีชีวิตของเรา การใช้ชีวิตของคนเมืองที่แม้จะใช้ชีวิตท่ามกลางผู้คนมากมายหลายล้านคน แต่ก็ล้วนเป็นคนแปลกหน้าที่ปิดกั้นตัวเองออกโลกภายนอกด้วยหูฟังและสมาร์ทโฟน The EM District รับรู้ได้ถึงความโดดเดี่ยวลึกๆ ในหัวใจ จึงต้องการเติมเต็มความรู้สึกของคนเมือง ที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการแสดงความรู้สึกเท่าไรนัก ด้วยการเปิดตัวแคมเปญดีๆ ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และสร้างแรงบันดาลใจ
โดย The EM District ได้เริ่มต้นปีด้วย Emotional Marketing ต่อยอดจากความสำเร็จของแคมเปญ Whenever…I feel ที่เนรมิตตึกหรูอย่าง THE EMQUARTIER และ THE EMPORIUM ให้กลายเป็นจอภาพขนาดใหญ่ที่จะฉายภาพผู้คนมากมายบนตัวอาคาร พร้อมบอกเล่าความรู้สึกผ่าน #IFEEL… เรียกเสียงฮือฮาจากลูกค้าได้ไม่น้อย
ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 16 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา The EM District ได้สร้างประสบการณ์ให้กับคนเมืองอีกครั้ง ด้วยการยกร้านเค้กน่ารักๆ มาตั้งอยู่บริเวณทางเชื่อมก่อนเข้าห้าง ที่มีชื่อว่า “Hugs Bakery” เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Whenever โดยใช้ชื่องานว่า “WHENEVER YOU NEED A HUG”
มาดูกันว่า “Hugs Bakery” แตกต่างจากร้านอื่นๆ ยังไง
เพียงก้าวแรกที่เดินพ้นสถานีรถไฟฟ้า คุณก็จะเห็นร้านเค้กสีฟ้า-ขาว ที่ตั้งอยู่บริเวณลาน Quartier Parc ก่อนถึงตัวห้างฯ พร้อมป้าย “Hugs Bakery” ภายในร้านก็จะเต็มไปด้วยพ่อค้า แม่ค้าตัวน้อยๆ ที่รอต้อนรับลูกค้าทุกราย และถ้าคุณอยากทานเค้กในร้านนี้ ก็แค่เลือกคัพเค้กที่ชอบ แล้วเดินเข้าไป “กอด” น้องๆ แทนการจ่ายเงิน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เค้กมาทานฟรีๆ สร้างความประทับใจ และเรียกรอยยิ้มให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ คัพเค้กที่นำมาแจก ก็ทำขึ้นมาสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ และยังเพิ่มความพิเศษด้วยการตั้งชื่อน่ารักๆ อาทิ “Hug me please!” “Hug me tight” “Sweet hug” “Big hug” ฯลฯ
ถ้าให้พูดถึงความสำเร็จ ต้องบอกว่าแคมเปญ “Hugs Bakery” ได้รับความสนใจจากผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างมาก ทั้งคนไทยและต่างชาติ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง คัพเค้กที่เตรียมมาก็แทบจะไม่เหลือ เป็นแคมเปญที่ใช้ไอเดีย และความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างน่าประทับใจ โดย The EM District ได้สร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภค ให้รู้สึกและสัมผัสได้ถึงความเป็นแบรนด์ที่หลายๆ คนอาจมองว่า The EM District เป็นศูนย์การค้าสุดหรูใจกลางเมือง ตอนนี้ The EM District ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง และพร้อมจะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าทุกรายที่มาเยือน
ซึ่งจะมีแคมเปญอะไรที่น่าสนใจอีกนั้น ต้องรอติดตามชม หรือติดตามความเคลื่อนไหวจาก The EM District ได้ที่ www.instagram.com/theemdistrictpeople